อะไรก็ได้ ที่สามารถรับรู้(Percept) ถึง สภาวะแวดล้อม(Environment) รอบๆตัวมันได้โดยผ่าน ตัวรับรู้(Sensor) และสามารถแสดงการกระทำ(Action) ที่เกิดจากการรัยรู้นั้นๆ โดยผ่านตัวแสดงการกระทำ(Actuator) เช่น
Agent ที่เป็นมนุษย์
Sensor คือ ตา หู จมูก ปาก ผิวหนัง ลิ้น
Actuator คือ แขน ขา ปาก .. อื่นๆ
Agent ที่เป็นหุ่นยนต์
Sensor คือ กล้อง ไมโครโฟน ตัวรับกลิ่น กล้องเทอร์มอล(กล้องจับความร้อน)
Actuator คือ มอเตอร์ ข้อต่อต่างๆ .. อื่นๆ
เราไม่ได้เน้น Agent ที่ทำเหมือนมนุษย์มากที่สุด แต่เน้น Agent ที่ทำดีที่สุด
__________________________
Agent and Environment
_________________________
เอเจนต์ที่มีเหตุผล(Rational Agents)
คือ เอเจนต์ ที่แสดงการกระทำได้ถูกต้อง เมื่อได้รับรู้ข้อมูลของสิ่งแวดล้อม
การจะบอกว่า เอเจนต์นั้น ประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น เราต้องออกแบบเอเจนต์ โดยวิเคราห์ส่วนต่างๆดังนี้ (PEAS)
P = Performance measure ตัวบ่งชี้ว่าจะวัดประสิทธิภาพ (ทำอย่างไรถึงดี)
E = Environment สภาพแวดล้อม ณ ขณะนั้น
A = Actuator ตัวกระทำ ณ ขณะนั้น ว่าแสดงออกอย่างไร
S = Sensor ตัวรับรู้ ณ ขณะนั้นว่าเป็นแบบใด
เรียกรวมๆกันว่า PEAS
เมื่อ เอเจนต์ที่มีเหตุผล ได้รับ ชุดข้อมูบจากการรับรู้ (Percept Sequence) เข้ามา เอเจนต์ที่มีเหตุผลจะต้องเลือกการกระทำ (Action) ที่คาดว่า จะให้ค่าของประสิทธิภาพ(Performance Measure) มากที่สุด โดยใช้ Knowledge Base ที่มีอยู่ เป็นข้อมูลในการพิจารณา
เอเจนต์ จะเป็นแบบ Automonous เมื่อพฤติกรรมของมันสามารถตัดสินใจได้เองโดยใช้ประสบการณ์ที่เรียนรู้มา (สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้)
Rational Agent จะแก้ไขสภาพแวดล้อมที่กำหนด และเรียนรู้แบบ Autonomous ได้ในบางเวลา
_____________________________
PEAS จะต้องถูกออกแบบก่อนเสมอ เมื่อเราจะออกแบบ Intelligent agents
ตัวอย่าง
Agent สำหรับขับรถแทกซี่อัตโนมัติ
1. Performance Measure:
ปลอดภัย(Safe)
รวดเร็ว(Fast)
ขับถูกกฏจราจร(Legal)
เดินทางสบาย(Comfortable trip)
ให้ผลกำไรสูงสุด(Maximum benefit)
2. Environment: สภาพถนน, สภาพจราจร, คนเดินบนถนน, ลูกค้า
3. Actuator: พวงมาลัย, คันเร่ง, แบรก, สัญญาณไฟ, แตร
4. Sensor: กล้อง, ตัวรับคลื่นเสียง(Sonar), หน้าปัดความเร็ว(Speedometer), เครื่องวัดระยะทาง(odometer), engine sensors, keyboard
______________________________
Fully Observable - เหมือนกับมองอยู่ Top view เห็นสภาพแวดล้อมได้ทั้งหมด ตรงข้ามกับ Partially observable ที่จะรู้เมื่อเดินไปถึงก่อน เหมือนมองในแนวราบ
Deterministic - เมื่ออยู่ตำแหน่งใดๆ เอเจนต์สามารถทำนายได้ว่า ลำดับต่อไปจะเจอกับอะไร และต้องแสดงการกระทำอะไร ถ้าในทางตรงกันข้าม จะเรียกว่าเป็น Stochastic
Episodic - คือการที่ลำดับของการรับรู้ของเอเจนต์ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ แต่ถ้าลำดับต่อเนื่องกันเราจะเรียกว่า Sequential
Static - คือการที่สภาพแวดล้อมคงทีตลอดเวลา แต่ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเราจะเรียกว่า Dynamic
Discrete - คือการเอเจนต์สามารถเดินทางในสภาพแบบเป็นขั้นตอนได้ ทางตรงข้ามเรียกว่า continuous
Single Agent - ในสภาพแวดล้อมเดียวมี เอเจนต์ได้กี่ตัว ถ้าหลายตัวเรียก Multiagent
______________________________
Behavior คือ พฤติกรรมที่ Agent แสดงเมื่อมีการรับรู้
การออกแบบ Agent = architecture + program
______________________________
ประเภทของเอเจนต์
1. Simple reflex agents
2. Model-based reflex agents
3. Goal-based agents
4. Utility-based agents
_
5. learning agents